ขั้นตอนที่ 2 เป็น Model ไหน
กรณีการรับออเดอร์จากลูกค้า ไม่ว่าจะออเดอร์ Buy หรือ Sell จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน 2 กรณี คือ
โบรกเกอร์ NDD
คือโบรกเกอร์ที่มีรายได้จาก ช่วง Spread และ Commission เท่านั้นไม่มีการเทรดตรงข้ามกับลูกค้า
โบรกเกอร์ DD
คือ โบรกเกอร์ที่เทรดตรงข้ามกับลูกค้า นอกจาก Spread Comission Swap แล้วจะได้กำไรจากการที่เทรดเดอร์ขาดทุนอีกด้วย แต่ด้วยเงินทุนที่หนา และสมมุติฐานว่าในระยะยาวเทรดเดอร์จะขาดทุนเสมอ ทำให้มีการเทรดตรงข้ามกับลูกค้า
ขั้นตอนที่ 3 ถ้าเป็น DD เขารับออเดอร์ของลูกค้าไว้
โบรกเกอร์ Forex Dealing Desk คือโบรกเกอร์ที่เทรดตรงข้ามกับเทรดเดอร์ นั่นคือมีสภาพเหมือนกับบ่อนที่รับแทงตรงข้ามจากที่เทรดเดอร์ส่งคำสั่งเข้ามา
- ถ้าเทรดเดอร์ BUY และราคาขึ้นหมายความว่าเทรดเดอร์กำไร แต่ โบรกเกอร์จะขาดทุน
- ถ้าเทรดเดอร์ BUY และราคาลง หมายความว่าเทรดเดอร์ขาดทุน แต่ โบรกเกอร์จะกำไร
- โบรกเกอร์ Dealing Desk จะมีจำนวนเงินทุนสำรองที่มหาศาล เมื่อเทรดเดอร์ล้างพอร์ทหมายความว่า เงินของเทรดเดอร์จะกลายเป็นเงินของโบรกเกอร์ทั้งหมด โบรกเกอร์ประเภทนี้ จะตั้งสมมุติฐานว่าเทรดเดอร์จะขาดทุนเสมอ พวกเขาจึงเสนอ Leverage ที่สูงเพื่อทำให้เทรดเดอร์อยู่ในสถานะ Overtrade เพราะส่งคำสั่ง Lot ได้เยอะ
ขั้นตอนที่ 4 ถ้าเป็น NDD เขาส่งออเดอร์ของลูกค้าเข้าตลาด
โบรกเกอร์ NDD เป็นโบรกเกอร์ Forex ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางจึงทำให้พวกเขาไม่มีรายได้อย่างอื่น นอกจาก การบวกค่า Spread ค่า Commission และ ค่า Swap นั่นคือส่วนต่างที่เขาจะบวกได้ ทำให้ต้นทุนการเทรดของเทรดเดอร์สูง จึงทำให้โบรกเกอร์ประเภทนี้ไม่ค่อยเป็นที่ดึงดูดต่อลูกค้ารายย่อย Bonus หรือ Promotion ก็จะไม่มีให้สำหรับเทรดเดอร์
สรุป
การเทรด Forex นั้นเราจะต้องทราบขั้นตอนการทำงานของ โบรกเกอร์ Forex ด้วยเพราะว่ามันจะทำให้เราเข้าใจคู่แข่งของเรา การเลือกโบรกเกอร์ผิดทำให้เงินของเราอยู่ในความเสี่ยง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า Dealing Desk จะเป็นโบรกเกอร์ที่ดี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง
เพราะ Broker Dealing Desk ที่ดีและมีชื่อเสียงก็ไม่มเอาชื่อเสียงความน่าเชื่อถือของตัวเองที่สั่งสมมา มาแลกกับกำไรเพียงน้อยนิดแล้วต้องเสียฐานลูกค้าไปเช่นกัน